5 รายวิชาทั้งหมด
                 
               แก้ไขแล้ว 25 October 2024
แก้ไขแล้ว 29 September 2020
แก้ไขแล้ว 29 September 2020
แก้ไขแล้ว 29 September 2020
แก้ไขแล้ว 25 October 2024
แก้ไขแล้ว 29 September 2020
แก้ไขแล้ว 29 September 2020
แก้ไขแล้ว 29 September 2020
แก้ไขแล้ว 25 October 2024
                 
               แก้ไขแล้ว 29 September 2020
แก้ไขแล้ว 25 October 2024
แก้ไขแล้ว 25 October 2024
แก้ไขแล้ว 25 October 2024
แก้ไขแล้ว 25 October 2024
									
								
									
								1. หลักการและเหตุผล
พระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 มีหลักการสำคัญให้นำกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่งซึ่งทุนทรัพย์ไม่มากนักและข้อพิพาททางอาญาบางประเภทมากำหนดเป็นกฎหมายกลาง เพื่อให้หน่วยงานของรัฐ พนักงานสอบสวน หรือศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนใช้ในการยุติหรือระงับ
ข้อพิพาทดังกล่าว โดยคำนึงถึงความยินยอมของคู่กรณีเป็นสำคัญ ทำให้ปริมาณคดีขึ้นสู่ศาลลดน้อยลง ลดปัญหา ความขัดแย้ง เกิดความสมานฉันท์ขึ้นในสังคม ลดงบประมาณแผ่นดิน และเสริมสร้างสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่ง ข้อพิพาททางอาญาของหน่วยงานซึ่งดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสังกัดกระทรวงยุติธรรม และ
ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รวมถึง การพัฒนาศักยภาพผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และคณะทำงานศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ให้สามารถปฏิบัติงานตามกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องจัดทำหลักสูตรเทคนิคการไกล่เกลี่ย
ข้อพิพาททางอาญา
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงาน ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 หลักสูตรเทคนิคการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญา
2.2 เพื่อจัดทำชุดความรู้เทคนิคการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญา ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
									
								1. หลักการและเหตุผล
พระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562
มีหลักการสำคัญให้นำกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่งซึ่งทุนทรัพย์ไม่มากนักและข้อพิพาททางอาญาบางประเภทมากำหนดเป็นกฎหมายกลาง
เพื่อให้หน่วยงานของรัฐ พนักงานสอบสวน
หรือศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนใช้ในการยุติหรือระงับ
ข้อพิพาทดังกล่าว โดยคำนึงถึงความยินยอมของคู่กรณีเป็นสำคัญ
ทำให้ปริมาณคดีขึ้นสู่ศาลลดน้อยลง ลดปัญหา ความขัดแย้ง
เกิดความสมานฉันท์ขึ้นในสังคม 
ลดงบประมาณแผ่นดิน และเสริมสร้างสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข
                ดังนั้น
เพื่อให้การดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่ง
ข้อพิพาททางอาญาของหน่วยงานซึ่งดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสังกัดกระทรวงยุติธรรม และศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รวมถึง
การพัฒนาศักยภาพผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
และคณะทำงานศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน
ให้สามารถปฏิบัติงานตามกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องจัดทำหลักสูตรเทคนิคการไกล่เกลี่ย
ข้อพิพาททางแพ่ง
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงาน ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 หลักสูตรเทคนิคการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่ง
                2.2 เพื่อจัดทำชุดความรู้เทคนิคการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่ง
ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
พ.ศ. 2562
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
									
								1. หลักการและเหตุผล
พระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 มีหลักการสำคัญให้นำกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่งซึ่งทุนทรัพย์ไม่มากนักและข้อพิพาททางอาญาบางประเภทมากำหนดเป็นกฎหมายกลาง
เพื่อให้หน่วยงานของรัฐ พนักงานสอบสวน
หรือศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนใช้ในการยุติหรือระงับ
ข้อพิพาทดังกล่าว โดยคำนึงถึงความยินยอมของคู่กรณีเป็นสำคัญ
ทำให้ปริมาณคดีขึ้นสู่ศาลลดน้อยลง ลดปัญหา ความขัดแย้ง
เกิดความสมานฉันท์ขึ้นในสังคม 
ลดงบประมาณแผ่นดิน และเสริมสร้างสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข
                ดังนั้น
เพื่อให้การดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่ง
ข้อพิพาททางอาญาของหน่วยงานซึ่งดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสังกัดกระทรวงยุติธรรม 
และศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
รวมถึงการพัฒนาศักยภาพผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
และคณะทำงานศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ให้สามารถปฏิบัติงานตามกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จึงต้องจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมเทคนิคการจัดกระบวนการและทักษะการ
ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
 
 
 
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงาน ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 หลักสูตรการบริหารจัดการศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและทักษะการจัดกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท (สำหรับหน่วยงานของรัฐ สังกัดกระทรวงยุติธรรม และศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน)
2.2 เพื่อจัดทำคู่มือการบริหารจัดการศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและการปฏิบัติงานไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562
3. คุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรม
3.1 เป็นผู้ที่เคยผ่านการอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ไกล่เกลี่ยตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562
4.จำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรม
จำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรม รุ่นละประมาณ 50 คน
5. ระยะเวลาและวิธีการฝึกอบรม
หลักสูตรมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 18 ชั่วโมง รูปแบบการเรียนการสอน ประกอบด้วย การบรรยายแบบมีส่วนร่วม การอภิปรายและระดมความคิดเห็น การจัดกิจกรรมกลุ่ม และฝึกปฏิบัติ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยสถานการณ์จำลอง
6. เงื่อนไขการสำเร็จการฝึกอบรม
ผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่จะได้รับใบประกาศผู้ผ่านการฝึกอบรม ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
6.1 มีระยะเวลาเข้าร่วมการเรียนรู้ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของระยะเวลาการฝึกอบรม
6.2 ผ่านการฝึกปฏิบัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในห้องเรียนโดยใช้สถานการณ์จำลอง
6.3 ผ่านการประเมินการทดสอบความรู้หลังเสร็จสิ้นการฝึกอบรม 
โดยได้รับคะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของคะแนนทั้งหมด (ข้อสอบปรนัย) 
กรอบเนื้อหา ระยะเวลาและชื่อผู้เขียน
| 
    กรอบเนื้อหา  | 
   
    ระยะเวลา  | 
   
    ผู้เขียน  | 
  
| 
   หมวดวิชาที่1.และ2. ภาพรวมการบริหารจัดการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่ผ่านมาของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ปัญหา อุปสรรค ข้อท้าทายในการจัดกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท (ก่อนใช้พรบ.ไกล่เกลี่ย พ.ศ.2562 จนถึงปัจจุบัน) และบริบททั่วไป กฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามพรบ.ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 และกฎหมายลำดับรอง 1. ภาพรวมการบริหารจัดการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่ผ่านมาของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนก่อนใช้พรบ.ไกล่เกลี่ย พ.ศ.2562 จนถึงปัจจุบัน 2. ปัญหา อุปสรรค ข้อท้าทายในการจัดกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ก่อนใช้พรบ.ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 3. บริบททั่วไปในไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามพรบ.ไกล่เกลี่ย พ.ศ.2562และกฎหมายลำดับรอง 4. สาระสำคัญของพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรอง 5. ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนและหน่วยงานรัฐที่ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท (ยุติธรรมจังหวัด) ก่อนการบังคับใช้พระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 จนถึงปัจจุบัน 
  | 
  
   4.30 ชม  | 
  
   พลเอกเอกชัย ศรีวิลาศ ดร.ชลัท ประเทืองรัตนา  | 
 
| 
   หมวดวิชาที่ 3. การเตรียมการก่อนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามพรบ.ไกล่เกลี่ย พ.ศ.2562 และจิตวิทยาในการสื่อสาร ( 3 ชม) 3.1 การเตรียมการก่อนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท : คดีแพ่งและอาญาที่ไกล่เกลี่ยได้และไม่ได้ 3.2 จิตวิทยาในการสื่อสาร ภาษากาย การเข้าใจอารมณ์คน การสื่อสารที่ดีและการฟังอย่างเข้าใจ 
  | 
  
   3 ชม  | 
  
   พลเอกเอกชัย ศรีวิลาศ ดร.ชลัท ประเทืองรัตนา  | 
 
| 
   หมวดวิชาที่ 4. การจัดกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ตามพรบ.ไกล่เกลี่ย พ.ศ.2562 และกฎหมายลำดับรอง ( 3 ชม) 4.1 บริหารจัดการในช่วงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามพรบ.ไกล่เกลี่ย พ.ศ.2562และกฎหมายลำดับรอง 
  | 
  
   3 ชม  | 
  
   อ.ประกายรัตน์ อต้นธีรวงศ์  | 
 
| 
   หมวดวิชาที่ 5. ฝึกปฏิบัติการไกล่เกลี่ยโดยใช้สถานการณ์จำลอง 
 
  | 
  
   3 ชม  | 
  
   อ.ประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์และ อ.สุคนธ์ สินธพานนท์ 
  | 
 
| 
   หมวดวิชาที่ 6. การติดตาม ประเมินผลการไกล่เกลี่ยและการส่งเสริมการไกล่เกลี่ย 
  | 
  
   3 ชม  | 
  
   พลเอกเอกชัย ศรีวิลาศ ดร.อภิญญา ดิสสะมาน 
  | 
 
| 
   หมวดวิชาที่ 7. ถอดบทเรียนการเรียนรู้ร่วมกันและวางแผนการนำความรู้ไปใช้ในอนาคต 
 
  | 
  
   2 ชม  | 
  
   พลเอกเอกชัย ศรีวิลาศ ดร.อภิญญา ดิสสะมาน 
  | 
 
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
									
								แผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2562 - 2565) และยุทธศาสตร์กระทรวงยุติธรรม ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) เป็นภารกิจสำคัญที่กระทรวงยุติธรรม ต้องดำเนินการพัฒนาและบูรณาการระบบเครือข่ายภาคประชาชนของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ในสังคม นำไปสู่การแก้ไขปัญหาของชุมชนอย่างยั่งยืน ดังนั้น เพื่อส่งเสริมให้เครือข่ายภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการดำเนินงานระดับชุมชน จึงต้องสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจ บทบาทหน้าที่อาสาสมัครยุติธรรม ให้มีความรู้ ความเข้าใจในภารกิจของแต่ละหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้เครือข่ายภาคประชาชนของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมบูรณาการการทำงานร่วมกัน ให้เป็นหนึ่งเดียว และเป็นต้นแบบในการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครที่เข้มแข็ง
วัตถุประสงค์
หลักสูตรอาสาสมัครยุติธรรม ต้องการให้ผู้ผ่านการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจในภารกิจของแต่ละหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครยุติธรรม ดังนี้
- เป็นแกนนำของเครือข่ายภาคประชาชน กระทรวงยุติธรรม ในระดับชุมชน
- นำความรู้ บทบาทและหน้าที่ภารกิจของแต่ละหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
- ส่งเสริมให้อาสาสมัครยุติธรรม และเครือข่ายภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการดำเนินงานระดับชุมชน
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ